นักวิทยาศาสตร์เตือนว่า “กระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีม” หรือ Atlantic Meridional Overturning Circulation (AMOC) ซึ่งเป็นหนึ่งในกระแสน้ำหลักของโลกในมหาสมุทรแอตแลนติก “อาจล่มสลายลงภายในไม่กี่ทศวรรษข้างหน้า” หากโลกยังคงสร้างมลภาวะและทำให้โลกร้อนอยู่เช่นนี้
โดยพบว่า กระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีม อาจพังทลายลงราวกลางศตวรรษนี้หรืออาจจะเกิดขึ้นเร็วมากในปี 2025 นี้เลย ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริง อาจนำไปสู่หายนะต่อสภาพอากาศโลกและ “ส่งผลกระทบต่อทุกคนบนโลก”
นักวิทย์พบหลักฐานยืนยัน โลกเข้าสู่ยุคสมัย “แอนโทรโพซีน” แล้ว!
ระดับน้ำแข็งทะเลแอนตาร์กติก ลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
อุณหภูมิเฉลี่ยโลกร้อนทุบสถิติ 4 วันติด คาดสูงสุดในรอบ 100,000 ปี
กระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีมเป็นกระแสน้ำที่ซับซ้อน ซึ่งทำงานเหมือนสายพานลำเลียงขนาดยักษ์ทั่วโลก มันลำเลียงน้ำอุ่นจากเขตร้อนไปยังมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ที่ซึ่งน้ำจะมีอุณหภูมิเย็นลง กลายเป็นน้ำเค็มมากขึ้น และจมลึกลงไปในมหาสมุทร ก่อนจะกระจายลงทางใต้
กระแสน้ำอุ่นนี้ยังมีบทบาทสำคัญในระบบภูมิอากาศ เพราะช่วยควบคุมรูปแบบ (Pattern) ของสภาพอากาศทั่วโลก การล่มสลายของมันจะทำให้เกิดผลกระทบร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็นฤดูหนาวที่รุนแรงมากขึ้น ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อพื้นที่บางส่วนของยุโรปและสหรัฐฯ รวมถึงเปลี่ยนการเคลื่อนตัวของลมมรสุมในเขตร้อน
หากถามว่าการปล่อยมพิษและวิกฤตโลกร้อนมีอิทธิพลกับกัลฟ์สตรีมได้อย่างไร คำตอบคือ เมื่อมหาสมุทรร้อนขึ้นและน้ำแข็งละลาย น้ำจืดจะไหลลงสู่มหาสมุทรมากขึ้น ลดความหนาแน่นของน้ำ ทำให้น้ำจมหรือหมุนเวียนลงไปด้านล่างได้น้อยลง เมื่อน้ำจืดเกินไป อุ่นเกินไป หรือทั้งสองอย่าง กระแสน้ำก็จะหยุดทำงาน
นักวิทยาศาสตร์บอกว่า เหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นมาก่อนเมื่อกว่า 12,000 ปีที่แล้ว เมื่อธารน้ำแข็งละลายอย่างรวดเร็วทำให้กัลฟ์สตรีมปิดตัวลง ส่งผลให้อุณหภูมิในซีกโลกเหนือแปรปรวนอย่างมากถึง 10-15 องศาเซลเซียสภายในหนึ่งทศวรรษ
เดิมทีรายงานเมื่อปี 2019 โดยคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติเคยคาดการณ์ไว้ว่า กัลฟ์สตรีมจะอ่อนกำลังลงในศตวรรษนี้ แต่การล่มสลายทั้งหมดก่อนปี 2100 นั้นไม่น่าเป็นไปได้ สวนทางกับการค้นพบใหม่นี้อย่างสิ้นเชิง
ในการค้นพนี้ ทีมวิจัยได้ศึกษาชุดข้อมูลที่ใหญ่กว่า และชุดข้อมูลที่สามารถแสดงให้เห็นว่า กระแสน้ำมีพฤติกรรมอย่างไรในช่วงเวลาที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากฝีมือมนุษย์
ปีเตอร์ ดิตเลฟเซน ศาสตราจารย์ด้านฟิสิกส์ภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน หนึ่งในทีมวิจัย กล่าวว่า ทีมนักวิทยาศาสตร์ได้ทำการวิเคราะห์อุณหภูมิพื้นผิวน้ำทะเลในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ในพื้นที่ทางตอนใต้ของกรีนแลนด์ในช่วง 150 ปีระหว่างปี 1870-2020
โดยปกติ อุณหภูมิพื้นผิวน้ำบริเวณดังกล่าวจะอุ่นขึ้น จากน้ำที่กัลฟ์สตรีมลำเลียงมาจากเขตร้อน แปลว่า “ถ้าอุณหภูมิตรงนี้เย็นลง ก็อาจเป็นเพราะกลัฟ์สตรีมกำลังอ่อนกำลังลง” จากนั้นผู้เขียนได้แยกผลกระทบของภาวะโลกร้อนที่เกิดจากมนุษย์ต่ออุณหภูมิของน้ำ เพื่อทำความเข้าใจว่า กระแสน้ำมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร
ดิตเลฟเซนบอกว่า พวกเขาพบ “สัญญาณเตือนภัยล่วงหน้า” ของการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในกระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีม ซึ่งทำให้พวกเขาคาดการณ์ด้วยความมั่นใจสูงว่า มันอาจปิดตัวลงหรือล่มสลายอย่างเร็วที่สุดในปี 2025 ไม่เกินปี 2090 แต่ช่วงเวลาที่น่าจะเกิดการล่มสลายมากที่สุดอยู่ระหว่างปี 2039-2070
“มันน่ากลัวจริง ๆ ไม่ใช่สิ่งที่คุณจะเขียนลงไปในงานวิจัยแบบเล่น ๆ ได้ เรามั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่านี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นจริง” ดิตเลฟเซนกล่าว
ด้าน ปีเตอร์ เดอ เมโนแคล ประธานสถาบันสมุทรศาสตร์วูดส์โฮล ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการค้นพบนี้ กล่าวว่า “การล่มสลายของกระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีมจะส่งผลกระทบต่อทุกคนบนโลกนี้ เป็นเรื่องใหญ่และสำคัญมาก”
เรียบเรียงจาก CNNคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ภาพจาก AFP